วิทยาศาสตร์เบื้องหลัง เครื่องย่อยเศษอาหาร FoodCycler®

พบกับเบื้องหลังวิทยาศาสตร์การทำงานของเครื่องย่อยเศษอาหาร FoodCycler® กันครับ ความมหัศจรรย์ของ Foodilizer™ ถูกผลิตอย่างไร จะใช้อย่างไร และสามารถช่วยสิ่งแวดล้อมได้อย่างไร

บทนำ:

สวัสดีผู้ที่รักสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนทุกท่านครับ วันนี้เราจะพาท่านไปพบกับโลกแห่งการรีไซเคิลเศษขยะอาหาร การจัดการขยะเศษอาหารจำนวนมากด้วยการฝั่งกลบ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการปลดปล่อยก๊าซมีเทนจำนวนมหาศาลอันแสนน่ากลัวสู่ชั้นบรรยากาศ ทำให้การจัดการเศษขยะอาหารในครัวที่บ้านสำคัญอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ลองจินตนาการถึงโลกที่เราสามารถรีไซเคิลเศษขยะอาหารในครัวให้เป็นสสารบำรุงดินที่มีคุณค่าโดยที่ไม่ต้องยุ่งยากกับการย่อยเศษขยะหารด้วยวิธีดังเดิม และนี้คือจุดเริ่มต้นของ FoodCycler ที่จะเปลี่ยนการจัดการเศษขยะอาหารให้อย่างยั่งยืนด้วย เครื่องย่อยเศษขยะอาหารไฟฟ้า

อะไรคือเครื่องย่อยเศษขยะอาหารไฟฟ้า

ก็ค่อนข้างจะตรงตามชื่อเลยครับ มันคือเครื่องย่อยเศษขยะอาหารที่อยู่ในครัวโดยใช้ไฟฟ้าทำงาน ช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดการเศษขยะอาหารในครับ มีขนานไม่ใหญ่มาก สามารถว่างบนโต๊ะได้ โดยมีหลักการทำงานคือ ให้ความร้อน ให้อากาศ และปั่นให้เศษขยะอาหารมีขนาดเล็กลง ขณะเดียวกันก็ลดกลิ่นเหม็นไปด้วย เหมือนมีผู้เชียวชาญด้านการย่อยเศษอาหารในบ้าน ที่ทั้งประหยัดทั้งเวลาและพื้นที่

เครื่องย่อยเศษขยะอาหาร FoodCycler ทำงานอย่างไร

FoodCycler มีการทำงานที่มัศจรรย์ เพียง 3 ขั้นตอนดังนี้

1. Drying หรือ การทำให้แห้ง: ใช้ความร้อนถึง 140 องศาเซลเซียส ในการทำให้เศษขยะอาหารแห้ง กำจัดแบคทีเรียมากกว่า 99% และลดปริมาณอาหารได้มากถึง 90% ด้วยการจัดการความชื้นส่วนเกิน

2. Grinding หรือ การบด: ด้วยระบบอันทรงพลังของกลไกการหมุนและใบมีด จะทำให้เศษขยะอาหารของคุณกลายเป็นเศษเล็กๆ

3. Cooling หรือ การทำให้เย็นลง: สุดท้ายเครื่องจะปล่อยให้เย็นลงเพื่อการจัดการที่ปลอดภัยและง่าย

เครื่องย่อยเศษอาหาร FoodCycler vs. การย่อยหมักเศษขยะอาหารแบบดังเดิม:

ทั้งสองวิธีนี้เป็นพระเอกในการจัดการขยะอาหาร ซึ่งก็มีข้อดีที่แตกต่างกันครับ

• Product Outcome ผลลัพธ์จากการย่อย : วิธีการย่อยสลายหมักแบบดังเดิม จะได้ทั้งความชื้น และแบคทีเรียที่มีคุณค่า จากการย่อยสลายเป็นเวลานานหลายเดือน, ขณะที่เครื่องย่อยเศษขยะอาหาร FoodCycler จะได้ความแห้ง และแทบจะไม่มีแบคทีเรีย เป็นชีวมวลที่สามารถนำไปใช้เป็นปุ๋ยหรือจะนำไปเพิ่มสำหรับการหมักก็ได้

• Time & Energy เวลาและพลังงาน: การย่อยและหมักแบบดังเดิมใช้เวลาเป็นเดือนขึ้นอยู่กับจุลินทรีย์ ขณะที่เครื่องย่อยเศษขยะอาหาร FoodCycler ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงโดยใช้ไฟฟ้า

• Input Limitations ข้อจำกัด: การหมักแบบดังเดิมจะมีข้อจำกัดในสิ่งที่จะหมักมากกว่าเครื่องย่อยเศษขยะอาหาร FoodCycler ที่สามารถย่อยได้ทั้งเนื้อ กระดูก วัตถุดิบเหลือใช้จากการทำอาหารในแต่ละวัน

• Seasonality ฤดู สภาพอากาศ: การหมักย่อยปกติจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในช่วงอากาศหนาวแต่สำหรับประเทศไทยความหนาวคงไม่ใช้ปัญหาครับ 555

ทำไมต้อง เครื่องย่อเศษอาหาร FoodCycle?

1. ไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์: บ้ายบายกับกลิ่นไม่พึงประสงค์

2. ประหยัดพื้นที่: เหมาะกับผู้พักอาศัยในพื้นที่จำกัด.

3. ใช้งานง่าย: เพียงใส่เศษขยะอาหารลงเครื่องและกดปุ่ม

4. ทำงานรวดเร็ว: เศษขยะอาหารของคุณจะกลายเป็นสสารปรุงดินในเวลาไม่นาน

5. ความอเนกประสงค์: สามารถย่อยขยะอาหารได้หลากหลายที่ยากๆเช่นกระดูกที่ชิ้นไม่ใหญ่

6. เป็นมิตรต้อสิ่งแวดล้อม: ลดการปล่อยการมีเมท

7. แทบจะไร้แบคทีเรีย เป็นสสารปรุงดินที่เก็บได้: เพราะแห้ง

ก่อนอื่นนะครับ ปุ๋ยคืออะไร?

ปุ๋ยมันก็คล้ายกับวิตามินของพืชนั้นเอง พืชต้องการสารอาหารที่จำเป็น 6 อย่างเพื่อการอยู่รอด พืชสามารถดึงสารอาหาร อย่าง ออกซิเจน โฮโดรเจน และ คาร์บอน จาก น้ำและอากาศ ส่วนที่เหลืออีก 3 อย่าง คือ ไนโตรเจน โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ซึ่งมากจากดิน และนั้นก็คือ ปุ๋ยครับ

ปุ๋ยคือสารที่ใช้เพื่อเสริมสร้างหรือเพิ่มประสิทธิภาพในการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งมักจะมีส่วนประกอบทางอาหารสำหรับพืช เพื่อให้พืชสามารถทำกระบวนการสังเคราะห์แสงและเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ปุ๋ยทำหน้าที่เติมทุกสารอาหารที่พืชต้องการเพื่อให้พืชพัฒนาและเจริญเติบโตได้ดีที่สุด.

ปุ๋ยสามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภทตามสารอาหารที่ประกอบประกอบ:

1. ปุ๋ยไนโตรเจน (Nitrogen): เป็นสารอาหารที่ช่วยในกระบวนการเจริญเติบโตและสร้างสารอินทรีย์ในพืช เช่น ใบ, กิ่ง, และต้น.

2. ปุ๋ยฟอสฟอรัส (Phosphorus): เป็นสารที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากและดอก ช่วยในกระบวนการสร้างเม็ดเมล็ด.

3. ปุ๋ยแมกนีเซียม (Potassium): ช่วยในกระบวนการเจริญเติบโตทั่วไปของพืช และเสริมสร้างภูมิต้านทานต่อโรคและการทนทานต่อสภาพแวดล้อม.

4. ปุ๋ยรอง (Secondary Nutrients): เช่น แคลเซียม, แมกนีเซียม, และกำมะถัน เป็นสารที่พืชต้องการในปริมาณมากน้อยต่าง ๆ.

5. ปุ๋ยเสริม (Micronutrients): เป็นสารที่พืชต้องการในปริมาณน้อยมาก, เช่น เหล็ก, สังกะสี, แมงกานีส, บอรอน, มอลิบดีนัม.

การเลือกใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมจะช่วยให้พืชเจริญเติบโตและให้ผลผลิตที่ดีที่สุด. ประเภทของปุ๋ยที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับประเภทของพืช, ปริมาณและสภาพอากาศของพื้นที่ที่ปลูก, และวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตปุ๋ยนั้น ๆ.

Foodilizer กับ Compost: ความแตกต่างคืออะไร?

Foodilizer เป็นวัสดุแห้งที่เกือบหมดจากแบคทีเรียและประกอบด้วยของเสียจากอาหารที่คุณได้ประมวลผลในเครื่อง FoodCycler ซึ่งเป็นวัสดุที่มีธาตุอาหารมากมาย เช่น ไนโตรเจน, ฟอสฟอรัส และ โปแทสเซียม!

Compost, ในทางตรงกันข้าม, เป็นวัสดุที่อุดมไปด้วยแบคทีเรีย - แบคทีเรียที่ดีถ้าทุกอย่างได้ผ่านกระบวนการหมัก composting ไปตามแผน! มีแบคทีเรียที่ทำให้ของเสียจากอาหารเปลี่ยนเป็นปุ๋ย โดยการย่อยลงเป็นสารที่มีลักษณะเคมีใหม่.

วิธีหลักที่ทำให้สองนี้แตกต่างกันคือ Foodilizer ต้องการแบคทีเรียที่ดีเหล่านั้นเพื่อทำให้มันย่อยลงไปจนกว่าจะกลายเป็นดิน: FoodCycler ช่วยเร่งกระบวนการนี้ด้วยการแตกต่างออกจากองค์ประกอบที่ประกอบด้วยสารอินทรีย์ และลดความชื้นที่อาจทำให้กระบวนการนี้ช้าลง และทำให้เสี่ยงต่อกลิ่นไม่พึงประสงค์และการรบกวนจากแมลง.